แม้ผิวของคุณจะไม่มีปากมีเสียงแต่มันกลับบอกความต้องการได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากคุณตั้งใจฟังดีๆก็จะเข้าใจว่าผิวนั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับสุขภาพของคุณอย่างไร และท้ายที่สุดคุณจะรู้สึกทึ่งกับความสามารถในการบอกความต้องการจากผิวของคุณ ฉันไม่เคยเป็นโรคลมพิษมาก่อน บอกเลยว่าฉันรู้สึกคันและมีจุดขึ้นเห่อเต็มไปหมด การซื้อครีมผ่านเคาท์เตอร์ก็ไม่ช่วยอะไรเลย สุดท้ายฉันต้องไปหาหมอและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับฉันเหรอคะ?” เมื่อผลออกมาว่าเป็นอาการแพ้ พวกเขาก็ให้ครีมมาทาแต่ก็แนะนำว่าฉันควรไปพบนักบำบัดโรค เห็นได้ชัดว่าความเครียดคือตัวปลุกเร้าให้เกิดโรคลมพิษขึ้นมา ทั้งนี้การรู้จักจัดการกับความเครียดคือวิธีรักษาผิวหนังที่ดีกว่าครีมใดๆทั้งปวง ร่างกายของคุณมักจะส่งสัญญาณเตือนออกมาเสมอไม่ว่าจะเป็นทั้งทางกายหรือจิตใจ และนี่คือสัญญาณเตือนรวมถึงความหมายที่แท้จริงของมัน
1. ผิวแห้งอาจหมายถึงร่างกายขาดโอเมก้า 3
หากมอยซ์เจอไรเซอร์ไม่สามารถลดความแห้งกร้านของผิวในช่วงฤดูหนาวได้ คุณควรหันมาพิจารณาเรื่องอาหารการกินแทน โอเมก้า 3 มีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเยื่อหุ้มเซลล์และควบคุมการผลัดเซลล์ผิวซึ่งจะทำให้ผิวชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง การขาดโอเมก้า 3 อาจทำให้วงจรการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติช้าลงซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้งและแตกเป็นขุย แหล่งโอเมก้า 3 ที่สำคัญคือ วอลนัท ปลาแซลมอนจากธรรมชาติ เมล็ดแฟล็กซ์ และถั่วเหลือง
2. สิวอาจหมายถึงความเครียด
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตบ่อยๆผิวของเราจะสะท้อนความเครียดเหล่านั้นออกมา หากคุณรู้สึกเครียดวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบางและฝึกโยคะควบคู่กันไป
3. การมีตีนกาอาจหมายถึงคุณควรใส่แว่นได้แล้ว
หากคุณมีริ้วรอยรอบดวงตาก็หมายความว่าคุณอาจใช้สายตาในการหรี่มองมากเกินไปและจำเป็นต้องใส่แว่นได้แล้ว หรือควรใส่แว่นกันแดดขณะขับรถท่ามกลางแดดจ้าเป็นเวลานานๆ
4. ใบหน้าซีดอาจบ่งบอกว่าคุณเป็นโรคโลหิตจาง
ซึ่งหมายความว่าปริมาณเซลล์เม็ดเลือดของคุณต่ำมาก ดังนั้นคุณควรเสริมโฟเลต วิตามินบี 12 และอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น เนื้อแดง ถั่ว และผักใบเขียว เพื่อดึงความเปล่งปลั่งกลับคืนสู่ผิว
5. สิวตามแนวขากรรไกรอาจบ่งบอกว่าคุณเป็นโรครังไข่มีถุงน้ำหลายใบ
คุณมักจะมีสิวบริเวณแนวขากรรไกรหรือไม่? ผู้ป่วยโรครังไข่มีถุงน้ำหลายใบหรือ PCOS มักจะมีสิวอุดอยู่ใต้ผิวหนังมากกว่าที่จะนูนออกมา และบางครั้งก็มักจะเห่อออกมาในบริเวณนั้นก่อนที่จะถึงรอบเดือน ทางที่ดีคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าโรค PCOS คือสาเหตุของการเกิดสิวหรือเปล่า?
6. ผิวสีส้มอาจบ่งบอกว่าต่อมไทรอยด์มีปัญหา
เบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะพบได้ในผักและผลไม้จำนวนมาก (โดยเฉพาะแครอท!) อย่างไรก็ตามหากคุณมีอาการไฮเปอร์ไทรอยด์หรือสภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากเกินไป ผิวของคุณจะกลายเป็นสีส้มเนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยสารต้านอนุมูลอิสระออกไปได้เร็วพอ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์หากคิดว่าผิวของคุณเป็นสีส้มและรู้สึกเฉื่อยชา
7. แผลพุพองและคันอาจเกิดจากอาการแพ้กลูเต็น
มีผู้คนจำนวนมากที่มีอาการแพ้กลูเต็นและทรมานจากการป่วยเป็นโรคเซลิแอค อาการโดยทั่วไปของผู้ที่แพ้กลูเต็นคือจะมีแผลพุพองขนาดเล็กและคันอย่างไม่น่าเชื่อ ปกติจะปรากฏขึ้นบริเวณใกล้กับข้อศอก เข่า ก้น และใบหน้า หากครีมจากเคาท์เตอร์ไม่สามารถบรรเทาอาการผื่นคันได้ คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
8. ผิวตึงและตกสะเก็ดอาจหมายถึงร่างกายของคุณกำลังขาดน้ำอย่างรุนแรง
นอกจากการขาดโอเมก้า 3 แล้ว สาเหตุอีกอย่างที่ทำให้ผิวแห้งกร้านก็คือการขาดน้ำ คุณควรพกน้ำดื่มติดตัวและจิบอยู่เรื่อยๆตลอดทั้งวันเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย
9. ฝ้า กระ บนใบหน้าอาจหมายถึงผิวของคุณถูกแสงแดดมากเกินไป
การถูกแสงแดดบ่อยๆอาจทำให้เกิดฝ้าหรือกระโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและหน้าอก หากคุณเพิ่งมีฝ้าหรือกระก็ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงขึ้นและควรพบแพทย์หากฝ้าหรือกระมีการเปลี่ยนแปลง โรคมะเร็งผิวหนังไม่ได้มีสาเหตุมาจากฝ้าหรือกระ แต่การเปลี่ยนแปลงก็เป็นตัวชี้วัดที่อาจเกิดขึ้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น